วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2558

กระแสลมกับการปั่นจักรยาน

เมื่อวานอยู่ๆอากาศก็เกิดแปรปรวนขึ้นมาจากที่ไม่มีลมแรงอากาศไม่หนาวอยู่ๆก็เปลี่ยนไป ดันมีลมกระโชกแรงพร้อมกับอากาศเย็นๆที่ตามแบบไม่ให้ปรับตัวกันผมเองก็ต้องเจอกับปัญหานี้เต็มๆเพราะต้องปั่นจักรยานไปทำงานโดนกระแสลมต้านจนทำให้ระยะทางที่เราเคยปั่นไปทำงานทุกวันเหมือนไกลไปกว่าเดิม

ลมที่เกิดขึ้นมานั้นผมไม่มีหลักทางวิทยาศาสตร์อะไรมาเขียนหรอกนะครับว่ามันเป็นลมอะไรมาจากไหนพัดแบบไหนเพราะไม่ได้เป็นกูรูด้านนี้เอาเป็นว่ามันเป็นลมที่เรารับรู้ได้จากความรู้สึกของผมเองจากการปั่นจักรยานไปทำงานทุกวันว่าวันนี้ลมไม่แรงวันนี้ลมมันแรงกว่าทุกวันพอสมควรทำให้ผมได้เรื่องมาเขียนในบล็อคนี้เพื่อแชร์ข้อมูลการปั่นกันเพราะกระแสลมแรงที่ต้านเราขณะปั่นจักรยานนั้นมันส่งผลทำให้นักปั่นเหนื่อยง่ายขึ้นนั่นเอง ดังนั้นครั้งนี้ผมเลยมาแชร์วิธีการเพื่อปั่นผ่านกระแสลมไปโดยที่เราไม่ต้องหอบแฮ่กๆ



วิธีแรกในการแก้ไขการปั่นจักรยานต้านกับกระแสลมนั้นผมใช้วิธีง่ายๆนั่นก็คือกดตัวเองให้ต่ำลงเพื่อลดการปะทะลมตรงๆให้มากที่สุดแต่ในคำว่ามากที่สุดมันต้องไม่ใช่ท่าที่ทำให้เราลำบากในการควบคุมรถหรือเกิดอาการเมื่อล้าจนเกร็งนะครับ เอาเป็นว่าก้มหลบลมโดยจับต่ำเปลี่ยนท่าทางในการจับแฮนด์หรือก้มตัวลงเพื่อมุดลมเท่านั้น เพราะผมปั่นจักรยานในเมืองหลวงของประเทศไทยบางครั้งหากก้มมากมุดมากก็จะเมื่อยล้ากล้ามเนื้อมากพอมันเมื่อยมากก็อาจจะเป็นตะคริวเกร็งขึ้นมาทำให้ควบคุมรถไม่ได้เสียจังหวะอาจโดนรถเมล์รถใหญ่ใจดีทั้งหลายหอบไปพร้อมพวกเขาได้(ฮา)


วิธีที่สองคือผมจะลดเกียร์ลงครับ นั่นคือผมจะปั่นในเกียร์ต่ำ หน้า2หลัง3-4 เพราะผมไม่อยากไปแข่งกับกระแสต้านของลมแค่ต้องการให้รถเคลื่อนไปข้างหน้าและขาสามารถปั่นได้สบายๆไม่หน่วงจนเกินไปซึ่งในส่วนของการใช้เกียร์ก็แล้วแต่คนนะครับว่าใครรู้สึกสบายขากับเกียร์ไหนในกระแสลมที่ต้านคุณอยู่ก็ใช้เกียร์นั้น

ดันนั้นเรื่องของกระแสลมต้านขณะปั่นจักรยานของผมจึงใช้วิธีแก้ง่ายๆแบบนี้เพราะมันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าส่วนวิธีที่มีบางท่านแนะนำว่าให้เปลี่ยนขนาดล้อเป็นล้อหน้าเล็กลงกว่าล้อหลังเพื่อตัดกระแสลมหรือเปลี่ยนใส่ล้อคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบาใส่หมวกที่ลู่ลมปรื้ดๆใส่ชุดปั่นแนบผิวแบบนักแข่งเอาเป็นว่าผมมันคนงบน้อยไม่มีทุนไปทำอะไรเยอะแยะแบบนั้นก็แค่ปั่นให้สนุกและมีความสุขไปกับการแก้ปัญหาที่เราเจอเท่านั้นก็พอแล้ว (ฮา)




EZ noneny AD