แต่จะให้นั่งอุดอู้เป็นหมูกระป๋องอยู่บ้านก็ไม่ไหว หากจะเปิดแอร์สู้อากาศร้อนทั้งวันก็เกรงใจกระเป๋าเงินเวลาการไฟฟ้าเขาส่งบิลมาเก็บตังค์ก็เลยเกิดอาการติ๊ดส์แตกอยากไปที่มีน้ำมีสายลมมีกลิ่นไอธรรมชาติโดยคิดเอาเองว่าถ้าได้ไปในที่แบบนี้ไอเดียเรื่องงานที่รับเขามาทำเพื่อเสนอตัวอย่างช่วงหลังสงกรานต์คงจะพุ่งกระฉูด จึงตัดสินใจไปเที่ยวทะเลดีกว่า เพราะมันเข้ากับธีมฤดูร้อนเมษาฮาวายพอดิบพอดี(ฮา)
เมื่ออารมณ์และความคิดฟุ้งซ่านมันระเบิดก็เลยตัดสินใจออกจากบ้านตอนสายๆ เดินทางสบายๆลัดเลาะมาเรื่อยเปื่อยก่อนตัดออกเส้นบายพาสเลี่ยงตัวเมืองชลบุรี ก่อนเลี้ยวเบี่ยงขวามุ่งหน้าวิ่งเส้นเลียบทางรถไฟพัทยาและลัดเลาะดิ่งเข้าสัตหีบโดยพยามเลี่ยงการใช้เส้นทางผ่านตัวเมืองให้มากที่สุดเพราะผมไม่อยากไปเจอกับสงครามน้ำจนทำให้รถติดแหง่ก โดยมีจุดหมายคือ "หาดเตยงาม"
ที่จริงผมเคยมาหาดเตยงาม2-3ครั้งแล้ว และครั้งนี้เมื่ออยากจะมาเที่ยวทะเลสัตหีบทำให้ผมนึกถึงหาดเตยงามเป็นที่แรก เพราะชอบในความสะอาด หาดนี้ได้รับการดูแลโดยนาวิกโยทินทหารเรือ ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าหาดที่นี่ปลอดภัย และน่าลงเล่นน้ำมากกว่าที่บางแสนมากๆ เวลาเล่นน้ำก็ไม่ต้องกังวลกับเจ็ทสกี บานานาโบ๊ทและที่แน่ๆเมื่อผมมาที่หาดเตยงามผมไม่ต้องเจอกับกองทัพร่มที่นั่งก็ต้องจ่ายเงินค่าเก้าอี้ผ้าใบ แถมคนเยอะยังกับรังมด ยิ่งช่วงที่ผมไปมันเริ่มเข้าสู่เทศกาลวันไหลของชาวชลบุรี ยิ่งทำให้ผมต้องเลี่ยงไปชายหาดชื่อดังแห่งนี้
ผมมาถึงหาดเตยเงาเอาช่วงเย็นผมจึงเปลี่ยนแผนไม่เข้าไปเล่นน้ำโดยคิดว่าไว้มาเล่นพรุ่งนี้ เพราะที่หาดเตยงามเขาจะมีเวลาเข้าออกเป็นเวลาไม่ได้เปิดโอเพ่นเหมือนพัทยาบางแสน เพราะหาดนี้อยู่ในเขตทหารเรือ สำหรับการขับรถยนต์มาก่อนเข้าต้องแลกบัตรและบันทึกเลขทะเบียนรถทุกคันเพื่อความปลอดภัย หลังจากแลกบัตรแล้วก็ขับรถต่อไปอีกประมาณ 1กิโล ก็จะเจอชายหาด ที่นี่มีการควบคุมเรื่องความสะอาดและการกินดื่มเพราะเขาเข้มงวด ดังนั้นมาที่นี่สบายใจได้ว่าเราจะไม่เจอกลุ่มขี้เมาที่เปลี่ยนบรรยากาศที่กินเหล้า ใครมีครอบครัวมาเที่ยวที่นี่รับรองว่าปลอดภัยครับ
เมื่อเปลี่ยนแผนก็ต้องหาที่พัก เพราะมันเริ่มเย็นแล้วก็เลยออกไปตั้งหลักแถววัดหลวงพ่ออี๋พลางนึกว่าค่ำแล้วๆๆ คืนนี้ตรูจะนอนที่ไหน(ฟร่ะ)เพราะเดินทางมาครั้งนี้มาแบบอารมณ์ติตส์พามาไม่ได้เตรียมตัวเรื่องที่พัก รวมถึงเสื้อผ้าก็มีมาแค่สองชุด คือชุดใส่มา+ลงเล่นน้ำทะเล และชุดใส่กลับ ยิ่งช่วงเทศกาลแบบนี้ด้วยคงจะหาที่พักลำบากจะกางเต๊นท์นอนริมหาดก็ไม่ได้เอาเต๊นท์มา(เฮ้อ...) แต่ก็อยากจะอยู่เที่ยวอีกวันสองวันผมจึงใช้การเดินเข้าไปถามหาที่พักว่ามีที่ไหนว่างบ้าง และก็โชคดีที่ได้ที่พักของฝ่ายกิจการทหารเรือซึ่งมีห้องพักให้บริการและข้อสำคัญไม่แพง คนธรรมดาสามัญแบบผมจ่ายคืนละ750บาท แต่ถ้าเป็นข้าราชการเขามีส่วนลดให้อีกเหลือเพียงคืนละ550เท่านั้น
ห้องพักที่ผมเข้าพักนั้นเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นอาคารเก่ายังไม่ปรับปรุงแต่ก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ แถมมีฟรีไวไฟให้ด้วย ผมไม่คิดมากตอบตกลงทันทีเพราะมันเหลืออยู่ห้องเดียวขืนลีลามีหวังนอนข้างถนน(ฮา) ที่นี่เขามีร้านอาหารไว้บริการแถมอาหารก็ราคาไม่แพง อาหารจานเดียวเฉลี่ยจานละ60บาท และตอนเช้าก็มีชุดอาหารเช้า ราคา80บาท ก็กินได้พอดีอิ่ม แต่ผมขอเบิ้ลข้าวผัดกระเผาทะเลอีกจาน(ฮา)
"ห้องพักที่ได้ ราคานี้ติดหาดผมว่าคุ้ม" |
บรรยากาศด้านหน้า |
"ผมได้ที่ซุกหัวที่นี่(ฮา)" |
"นี่เลยครับเดิมดุ่มๆเข้าไปถามเขาเลย" |
พักชมภาพบรรยากาศของตลาดเช้าสัตหีบ
เช้าวันที่สองของการพักหลังจัดการอาหารเช้าเรียบร้อย ผมก็ออกไปเที่ยวหาดดงตาล ซึ่งก็เป็นหาดของทหารเรืออีกเช่นเคยแต่หาดดงตาลจะอยู่ใกล้กับที่พักแบบเดินไปได้ ผมจึงไปเที่ยวที่หาดดงตาล แต่ที่นี่บอกก่อนนะครับว่าผมค่อนข้างผิดหวังเพราะมันไม่สะอาดเหมือนหาดเตยงามอาจจะเพราะมันอยู่ใกล้กับแหล่งการทำประมงด้วยและมีกลุ่มเปลี่ยนบรรยากาศกินเหล้าเต็มไปหมด ทำเอาผมเสียอารมณ์พอสมควร แถมในบริเวณหาดดงตาลเขามีพื้นที่อนุรักษ์เต่าทะเล ซึ่งเขาจะกันแนวเชือกไว้ไม่ให้เข้าไปเล่นน้ำหรือนั่งในบริเวณนั้น แต่คนไทยครับ ไม่มีความหมาย กฎข้อห้ามไม่เคยสนใจ บางคนเข้าไปนั่งเซลฟี่หน้าตัวเองข้างๆป้ายห้ามด้วยซ้ำ เห็นแล้วปลงกับพฤติกรรมของคนไทยจริงๆ
"หากดงตาลบางส่วนดูเป็นเลนและไม่สะอาดเหมือนหาดเตยงาม" |