วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วันเดียว ปั่น เที่ยว ถ่าย

ช่วงวันหยุดวันปิยะมหาราชที่ผ่านมา ผมวางแผนจะออกไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนแต่เนื่องจากเป็นวันหยุดแค่วันเดียวดังนั้นจะไปเที่ยวสถานที่ไกลๆก็คงจะไม่ค่อยเหมาะนัก ผมคิดว่าวันหยุดหนึ่งวันนี้ผมอยากจะเที่ยวสถานที่ใกล้ๆกรุงเทพเดินทางไม่ลำบากเพราะครั้งนี้ผมจะไม่ขับรถไปเองแต่วางแผนว่าจะนั่งรถไฟไปเที่ยว ไปปั่นจักรยานและถ่ายภาพ ในคอนเซ็ป "วันเดียว ปั่นเที่ยวถ่าย"

ดังนั้นจังหวัดอยุธยาจึงเป็นตัวเลือกแรกที่ผมเลือก เพราะอยุธยาอยู่ไม่ไกลกรุงเทพและสามารถใช้บริการรถไฟไทยได้ อีกทั้งอยุธยามีแหล่งโบราณสถานให้เราไปเที่ยวไปถ่ายภาพได้โดยไม่จำเป็นต้องขับรถยนต์เพราะเราสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวได้ด้วยจักรยาน และทริปนี้ผมไม่เอาจักรยานของตัวเองไปแต่จะไปเช่าจักรยานปั่นแทน

เช้าวันที่ 23ตุลาคม 2557 วันเดินทางผมตื่นนอนตอนเช้าอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสบายๆที่สุด นั่นคือเสื้อยืด กางเกงขาสั้นเพราะอากาศมันร้อนใส่ขายาวดูจะไม่ไหวอีกทั้งผมคิดไว้ว่าจะต้องปั่นจักรยานและสะพายกระเป๋ากล้องจึงไม่อยากแต่งตัวสร้างภาระให้ร่างกายในระหว่างปั่นจักรยาน(ฮา) 
ผมเดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีหลักสี่ในตอนประมาณ7.40 รถไฟเดินทางราวๆหนึ่งชั่วโมงนิดหน่อยก็ถึงสถานีอยุธยาซึ่งถือว่าใช้เวลาไม่นานหลังจากลงจากรถไฟแล้วผมก็เดินข้ามถนนมาหาของเติมพลังให้กระเพาะตัวเองหน้าสถานี และหลังจากนั้นผมก็เดินไปเช่ารถจักรยานจากร้านให้เช่าซึ่งมีอยู่หลายร้านมากในบริเวณสถานีรถไฟอยุธยาโดยค่าเช่าจักรยานคือคันละ40บาท/วัน หลังจากพยามเลือกจักรยานที่ดูเหมาะกับตัวผมเองที่สุดก็ได้มาหนึ่งคันสภาพแบบพอทนได้(ก็สมราคาค่าเช่าล่ะครับแต่ถ้าใครต้องการรถจักรยานดีๆก็คงต้องยกจักรยานมาเองครับ)จักรยานที่เช่าเป็นจักรยานแม่บ้านสภาพเดิมเคยมีเกียร์ดุมแต่ตอนนี้เกียร์เจ๊งใช้ไม่ได้แต่ผมไม่ได้สนใจตรงจุดนั้นมากนักเพราะคิดว่าเรามาปั่นเที่ยวในระยะทางไม่ไกลคือราวสักสิบกว่ากิโลเมตรส่วนการเช่าก็ไม่ได้ยุ่งยากครับให้บัตรประชาชนกับร้านไว้พร้อมกับชำระเงินค่าเช่าจากนั้นทางร้านก็ให้โซ่ล็อคกุญแจมาหนึ่งชุดเพื่อล็อคจักรยานและให้แผนที่มาหนึ่งแผ่นพร้อมเขียนแนะนำว่ามีสถานที่ตรงนั้นโน่นนี่ซึ่งผมไม่ได้ใช้ครับเพราะผมอ่านแผนที่ร้านทำมาไม่รู้เรื่องก็เลยตัดสินใจใช้ GPปาก ถามทางชาวบ้านดีกว่าถึงชัวร์ไม่มีหลง(ฮา)

"สถานีรถไฟอยุธยา"


หลังเช่าจักรยานเรียบร้อยผมก็มุ่งหน้าปั่นจักรยานไปยังวัดมหาธาตุทันทีเพราะผมต้องการไปถ่ายภาพเศียรพระที่ถูกต้นโพธิ์ขึ้นคลุมครอบไว้และหลังจากนั้นในช่วงบ่ายผมก็วางแผนไว้ว่าจะปั่นจักรยานไปที่ตลาดน้ำอโยธยาเพื่อชมบรรยากาศตลาดน้ำย้อนยุคก่อนที่จะปั่นจักรยานกลับมาที่สถานีรถไฟเพื่อคืนรถจักรยานและรอรถไฟกลับบ้านตอนช่วงเย็นซึ่งก็เป็นการจบแผนการเที่ยวในทริปนี้


หลังจากที่ได้จักรยานเรียบร้อยผมก็ปั่นจักรยานผ่านหน้าสถานีรถไฟตรงไปยังวัดมหาธาตุโดยเมื่อปั่นผ่านหน้าสถานีรถไฟไปสักพักก็ถึงทางแยกผมก็เลี้ยวขวาขึ้นสะพานปรีดี-ธำรงข้ามแม่น้ำป่าสักมุ่งไปตามถนนหลักและไปเลี้ยวขวาปั่นผ่านศูนย์กีฬาอยุธยาวิทยาลัยตรงผ่านวงเวียนไปอีกเล็กน้อยก็ถึงวัดมหาธาตุแล้วครับ ระยะทางก็ราวๆ4กิโลเท่านั้น เส้นทางที่ผมปั่นในวันนั้นก็ถือว่าสบายๆครับ สะพานไม่สูงชันอะไรรถบนถนนก็ไม่แน่หนา และเมื่อเลี้ยวขวาเข้ามาในบริเวณวัดมหาธาตุนั้นรู้สึกร่มรื่นเพราะมีต้นไม้ใหญ่เยอะมากผมจอดจักรยานเอาไว้ในบริเวณที่มีรถจักรยานมาจอดซึ่งตรงนี้ผมสังเกตเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งจะเป็นชาวยุโรปส่วนใหญ่เช่าจักรยานมาปั่นเที่ยวกันเยอะมากส่วนนักท่องเที่ยวชาวเอเชียผมเห็นมากันเป็นกรุ๊ปกับรถทัวร์ไม่เห็นปั่นจักรยานเที่ยวสงสัยกลัวร้อนหรือไม่ก็กลัวตัวดำ(ฮา) หลังจากจอดจักรยานเรียบร้อยผมก็เข้าไปถ่ายภาพในบริเวณวัดเพื่อถ่ายภาพเศรียพระโดยการเข้าชมวัดมหาธาตุนั้นมีการเก็บค่าบริการเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติแต่คนไทยเข้าชมฟรีครับ(เย้...) เมื่อผมเดินเข้าไปถึงจุดที่มีเศียรพระก็พบว่ามีคนมารุมถ่ายภาพกันเยอะมากๆทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งผมก็เพิ่งทราบว่ายูเนสโกยกย่องให้"เศียรพระในรากต้นโพธิ์" เป็น 1 ในที่สุดของมรดกโลก936แห่งทั่วโลกดังนั้นจึงมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพกันเยอะและหลังจากเดินท่อมๆถ่ายภาพอยู่ในวัดมหาธาตุจนถึงเวลาเที่ยวกว่าๆผมก็กลับออกมาเพื่อเตรียมตัวปั่นจักรยานไปยังตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งผมจะปั่นย้อนกลับไปทางเดิมที่ปั่นมาเมื่อเช้าโดยปั่นข้ามสะพานปรีดี-ธำรงเช่นเดิมและตรงลงจากสะพานไปจนถึงเจดีย์วัดสามปลื้มแล้วเลี้ยวซ้ายปั่นตรงไปราวๆสักหนึ่งกิโลก็จะถึงตลาดน้ำอโยธยา ซึ่งรวมระยะทางจากวัดมหาธาตุถึงตลาดน้ำอโยธยาก็ราวๆ5กิโลแค่นั้น เมื่อผมปั่นจักรยานมาถึงตลาดน้ำอโยธยาพบว่ามีรถเยอะมากเพราะมีคนมาเที่ยวกันค่อนข้างมากที่นี่ผมสามารถจอดจักรยานได้เพราะเขามีที่จอดจักรยานไว้ให้แต่ก็ไม่ดีนักหรอกครับแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย
"วัดมหาธาตุ"

"ตลาดน้ำอโยธยา"

สำหรับบรรยากาศตลาดน้ำอโยธยาผมขอบอกตามตรงครับว่าผมไม่ประทับใจและผมค่อนข้างผิดหวังเพราะมันไม่เหมือนกับที่ผมคาดไว้ว่าจะต้องเป็นตลาดน้ำย้อนยุคที่ดูดีมีบรรยากาศที่ริมน้ำที่ร่มรื่น แต่พอเข้ามาปรากฎว่าไม่ใช่ครับ มันไม่โดน บริเวณตลาดน้ำเป็นเหมือนคลองที่ขุดขึ้นมาใหม่มีเรือนำเที่ยวตลาดน้ำด้วยนะเรือผมเห็นแต่งแบบเรือมาดเรือโบราณสมัยก่อนแต่ดันติดเครื่องแบบเรื่องหางยาวซะงั้น เฮ้อ... ส่วนบรรยากาศร้านค้าก็ไม่น่าตื่นตาตื่นใจหลายๆร้านเป็นร้านขายของทั่วๆไปมีขายกระทั่งซองมือถือ ขากล้องถ่ายภาพเซลฟี่ บลาๆๆเป็นอะไรที่เราพบเจอได้ตามห้างหรือเปิดท้ายขายของทั่วๆไปส่วนที่ดูเหมือนจะเป็นไฮไลท์คือช้างนำเที่ยวผมไม่ได้ขึ้นขี้กียจเพราะเคยขึ้นบ่อยแล้วและเห็นมีอีกกิจกรรมคือให้คนไปถ่ายภาพกับเสือโคร่งโดยคิดค่าถ่ายภาพกับเสือ100บาท นอกนั้นก็มีให้หญ้าให้นมแพะ ให้อาหารปลาไม่รู้สิครับสำหรับผมไม่ตื่นเต้นอะไรกับของพวกนี้เลยแต่สำหรับเด็กๆอาจจะตื่นเต้นนอกจากนั้นก็มีโรงละครซึ่งผมก็เข้าไปนั่งรอดูนะครับแต่ไม่ทันได้ดูเพราะเวลามันกระชั้นจึงต้องรีบกลับมาก่อนแต่โดยรวมๆสำหรับผมการมาเที่ยวตลาดน้ำอโยธยามันไม่มีความรู้สึกแบบว่า เฮ้ย...กรูชอบ กรูประทับใจไม่มีความรู้สึกเช่นนี้เลยครับเมื่อมาเที่ยวที่ตลาดน้ำอโยธยาแต่หากจะมาเที่ยวอีกได้มั้ยคำตอบก็คือได้ครับแต่ผมคงไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่มันอลังการถ้าจะมามันคงเป็นเพียงแค่การมาเปลี่ยนบรรยากาศที่นั่งกินข้าวที่เดินเล่นเท่านั้น

ผมกลับออกมาจากตลาดน้ำอโยธยาก็ปั่นจักรยานกลับมายังร้านจักรยานบริเวณสถานีรถไฟอยุธยา ซึ่งก็มีระยะทางสั้นๆประมาณ2กิโลเมตรกว่าๆหลังจากทำเรื่องส่งคืนจักรยานเรียบร้อยผมก็มาซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพเที่ยวบ่ายสามโมงกว่า อ้อ...ลืมบอกไปครับการนั่งรถไฟมาปั่นจักรยานเที่ยวที่อยุธยาผมเสียค่าตั๋วรถไฟเพียงเที่ยวละ20บาทเท่านั้นไปกลับก็เพียง40บาท และระยะทางรวมในทริปการปั่นจักรยานเที่ยวอยุธยาครั้งนี้ก็ประมาณ11กิโล ซึ่งก็เป็นระยะทางที่ปั่นได้สบายๆและเป็นการท่องเที่ยวที่ประหยัดและได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวไปอีกแบบและแม้นในทริปนี้ผมจะไม่ประทับใจสถานที่เที่ยวบางส่วนแต่โดยรวมผมก็ชอบที่ได้มาเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอยุธยาเมืองมรดกโลกแห่งนี้



รวมภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองอยุธยาในทริปนี้ครับ
"นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมเช่าจักรยานปั่นเที่ยว"

"บริเวณวัดมหาธาตุ อยุธยา"


"ตลาดน้ำอโยธยาตลาดย้อนยุค แต่เรือนี่ทำให้ผมเสียฟิลเลย"

"ไหว้พระก่อนเข้าตลาด"

"บรรยากาศในตลาดน้ำอโยธยา"

"เวทีแสดงภายในตลาดน้ำอโยธยา"

"ช้างงาสวยทีเดียว"

"มีให้อาหารแก่ะ"

"ก๋วยเตี๋ยวเรือ"

"บริเวณด้านทางเข้าตลาดน้ำอโยธยา"

"ที่จอดจักรยานภายในตลาดน้ำอโยธยา"

EZ noneny AD