วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

ปั่นเที่ยว ปั่นชิลล์ ปั่นจริงกับชีวิตที่เริ่มใหม่

ผมถามตัวเองก่อนที่จะเริ่มปั่นจักรยานอย่างจริงจังว่า ผมจะปั่นทำไม? และอะไรคือเหตุผลในการปั่นจักรยานของผม ซึ่งแน่นอนครับว่าเหตุผลของแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกัน บางท่านอาจจะปั่นจักรยานเพราะตอนนี้มันกำลังเป็นกระแส บางท่านอาจจะปั่นเพื่อออกกำลังกาย ปั่นเพื่อสุขภาพ บางท่านปั่นเพื่อท่องเที่ยว บางท่านปั่นเพราะเพื่อนชวนปั่น บางคนจำต้องปั่นเพราะแฟนปั่น บางคนปั่นเพราะสาวข้างบ้านที่กำลังปิ๊งเธอปั่น(ฮา)  บางท่านปั่นเพื่อลดโลกร้อน บางท่านปั่นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองซึ่งก็ยังคงมีเหตุผลอื่นๆอีกมากมายอันนี้ก็แล้วแต่บุคล

สำหรับผมปั่นจักรยานเพราะอะไร? และมีอะไรเป็นแนวทางในการปั่น? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบล็อคนี้ ผมจึงอยากให้เพื่อนๆที่ได้เข้ามาอ่านบล็อคของผม อยากให้ลองกลับไปอ่านบทความแรกดูจะเห็นว่าผมเขียนเรื่องไปเที่ยวถ้ำพระยานครและในบทความแรกนั้นผมบ่นเรื่องสุขภาพเฮงซวยของผมเองที่ไม่ฟิตเปรี๊ยะแค่เดินขึ้นเขาไม่กี่ร้อยเมตรก็หอบเป็นหมาหอบแดด...นั่นล่ะครับสาเหตุที่ทำให้ผมเริ่มมองและตั้งคำถามตัวเอง

เรื่องสุขภาพเป็นสาเหตุหลักๆเลยที่ผมต้องกลับมาทบทวนตัวเองว่าผมเริ่มมีสุขภาพที่แย่แค่ไหนและผมจะแก้ไขอย่างไร ผมบอกตามตรงว่าผมรับไม่ได้กับร่างกายตัวเองที่อ่อนแอนปวกเปียกแบบนั้นเพราะผมเคยเป็นนักกีฬา ผมเคยแข่งขันกีฬาทั้งระดับโรงเรียน ระดับชุมชน ระดับท้องถิ่นและระดับชาติแต่มาวันนี้แค่เดินผมก็เหนื่อยจนจุกทำให้ผมเริ่มสำรวจตัวเองแล้วว่ามันเป็นเพราะอะไร? และการไปเที่ยวถ้ำพระยานครคราวนั้นทำให้ผมเริ่มตระหนัก โดยมันเริ่มเมื่อกลับจากการไปเดินถ้ำแล้วผมก็ไปพักที่รีสอร์ทติดชายหาดแห่งหนึ่งและภายในรีสอร์ทก็มีจักรยานให้ปั่นเล่นผมจึงเอาจักรยานออกไปปั่นรับอากาศริมทะเล ปั่นผ่านทางสวนมะพร้าวและปั่นขึ้นไปเที่ยวบนวัดที่อยู่บนเขาริมหาดใกล้กับที่พัก(จำชื่อวัดไม่ได้แล้ว)

การได้ปั่นจักรยานผ่านสวนมะพร้าวอย่างเชื่องช้า ได้ปั่นขึ้นเนินเขาเพื่อไปเที่ยววัดและตอนที่กำลังปั่นขึ้นเนินเขาไปผมก็บ่นกับตัวเองไปในใจตลอดว่า "มรึงๆๆๆช่างหาเรื่องให้ตัวเองลำบากได้เก่งจริงๆ(ฮา)" แต่เพราะผมไม่ยอมแพ้ด้วยนิสัยแบบนักกีฬาที่อยากเอาชนะตัวเองเหมือนตอนเดินขึ้นไปเที่ยวถ้ำพระยานครนั่นล่ะครับ เหนื่อยใจจะขาดแต่ผมไม่ยอมแพ้ผมสู้เดินต่อจนถึงที่หมาย และครั้งก็เช่นกันเมื่อขึ้นไปถึงวัดตรงจุดนั้นได้เห็นบรรยากาศได้สัมผัสสายลมที่พัดมาแม้นมันจะเป็นสายลมร้อนอ้าวๆแต่ผมกลับรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกอารมณ์มันต่างกับการขับรถติดแอร์ขึ้นมาอย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าเราขับรถติดแอร์ขึ้นมาแบบนี้พอลงรถปุ๊บเจอแดดร้อนๆหลายคนก็จะรีบวิ่งหาที่หลบแดดพร้อมกับบ่นถึงความร้อนอบอ้าวและสายลมที่พัดผ่านมาก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเพราะมันเป็นลมร้อนๆมันจึงกลายเป็นความทรมารเพราะต้องลงจากรถที่ติดแอร์เย็นฉ่ำมาโดนแดดร้อนๆเผาผิวเลียหน้าให้หมองจนทำให้การไปท่องเที่ยวนั้นกลายเป็นความทุกข์มากกว่าความสุข กลายเป็นความเร่งรีบ (รีบกลับไปนั่งในรถเปิดแอร์เย็นๆ)แทนที่จะได้เที่ยวพักผ่อนและดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทางของแหล่งท่องเที่ยว

บรรยากาศมุมมองจากวัดที่ผมขึ้นไปเที่ยว


วัดที่อยู่บนเขาติดหาดที่ผมไปพัก

และนั่นคือจุดเริ่มต้นทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวช้าๆด้วยแรงตัวเองทำให้ผมมีโอกาสดื่มด่ำกับบรรยากาศและมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวผ่านไปอย่างช้าๆอ้อยอิ่งไม่เร่งรีบ มีความสุขกับการได้เที่ยวได้พักผ่อนและสัมผัสกับบรรยากาศจริงๆของแหล่งท่องเที่ยวที่เราไป บวกกับสุขภาพที่ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีร่างกายที่อ่อนแอลงไปมากทำให้ผมได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า ผมต้องกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งหลังจากหยุดเล่นกีฬาไปหลายปี สาเหตุที่ผมหยุดก็เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใส่เหล็กดามหน้า ดามขา ดามไหล่พักพื้นร่างกายกายทำภาพบำบัดเป็นปีๆ และเมื่อผมตัดสินใจกลับมาออกกำลังกายอีกครั้งผมคิดแล้วว่าผมคงไม่สามารถเล่นกีฬาอย่างที่เคยเล่นมาได้แน่นอนเพราะกีฬาที่ผมเล่นมาก่อนนั้นมันต้องอาศัยพละกำลังมันต้องมีการปะทะผมจึงคิดถึงการปั่นจักรยานและคิดถึงบรรยากาศการได้ปั่นจักรยานของรีสอร์ทเที่ยวบริเวณชายหาดและขึ้นเขาไปไหว้พระ ประกอบกับผมเป็นคนชอบขี่รถมอเตอร์ไซค์และบ่อยครั้งที่ผมขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆรวมถึงการใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะเดินทางในชีวิตประจำมานานหลายสิบปีโดนทั้งแดดทั้งควันท่อไอเสียในฐานะมนุษย์เมืองที่ชาชินกับความร้อนบนนถนนดังนั้นการใช้จักรยานจึงเป็นคำตอบสุดท้ายของการเริ่มต้นชีวิตและสุขภาพใหม่ของผมด้วยหลายเหตุผลดังนี้ครับ

1.มันมีสองล้อเหมือนรถมอเตอร์ไซค์(ฮา)
2.ผมยังสามารถใช้จักรยานเป็นพาหนะเดินทางในเมืองได้แทนรถมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่แค่มันมีสองล้อเหมือนกันแต่เพราะมันประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าด้วย
3.จักรยานมันก็สามารถใช้ท่องเที่ยวได้เพียงแต่ช้ากว่าเหนื่อยกว่า
4.ข้อสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือ "มันช่วยทำให้ผมมีสุขภาพดีขึ้นได้" 

นั่นคือเหตุผลที่ผมหันมาปั่นจักรยานผมไม่มีเป้าหมายเป็นนักปั่นมืออาชีพหรือนักแข่ง สำหรับผมจักรยานเป็นพาหนะที่อำนวยความสะดวกและเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผม เปลี่ยนวิธีเดินทาง วิธีไปเที่ยวและวิธีสร้างสุขภาพ โดยรวมแล้วผมจึงเป็นแค่คนใช้จักรยานในชีวิตประจำวันเท่านั้น  แล้วเพื่อนๆล่ะครับ จักรยานของเพื่อนๆเป็นอย่างไร?


EZ noneny AD